ราคาบิตคอยน์วันนี้ (24 ก.พ. 66) ขยับขึ้น 1.2% อยู่ที่ 23,997 เหรียญสหรัฐ

ราคาบิตคอยน์ประจำวันนี้ (24 ก.พ. 66) ขยับขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับราคาเมื่อ 24 ชั่วโมง ราคาอยู่ที่ 23,997 เหรียญสหรัฐ หรือราว 831,460.05 บาท เปลี่ยนแปลง 0.59% ในช่วงเวลา 7 วัน ตามข้อมูลอัพเดต เมื่อเวลา 8.08 น. ที่ผ่านมา

ขณะที่เหรียญดิจิทัลคริปโตเคอร์เรนซีชนิดอื่น Ethereum ขยับขึ้น 0.93% Tether ขยับขึ้น และ Solana ขยับขึ้น 2.37% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สรุปราคาเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี

1. Bitcoin ราคา 23,996.77 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง 1.20%

2. Ethereum ราคา 1,653.97 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง 0.07%

3. Tether ราคา 1.00 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง 0.01%

4. BNB ราคา 309.23 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง 1.00%

5. USD Coin ราคา 1.00 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง 0.00%

6. XRP ราคา 0.3891 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง 0.47%

7. Cardano ราคา 0.3832 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง 2.37%

8. Polygon ราคา 1.35 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง 4.47%

9. Binance USD ราคา 1.00 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง 0.00%

10. Dogecoin ราคา 0.08454 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง 1.51%

หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อนและไม่ควรใช้เพื่อการตัดสินใจลงทุนหรือซื้อขาย ผู้อ่านควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

แนะนำข่าวการเงิน อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : อัตราเงินเฟ้อ CPI ของจีนเกินความคาดหมาย

อัตราเงินเฟ้อ CPI ของจีนเกินความคาดหมาย แต่ PPI แย่ลง

เมื่อวันศุกร์ อัตราเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคของจีนเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่เพิ่มขึ้นยังคงจำกัดการใช้จ่ายของประชาชน แม้จะยกเลิกข้อจำกัดส่วนใหญ่ไปแล้วก็ตาม ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อภาคโรงงานที่แย่ลงแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เติบโตที่ 2.1% ต่อปีในเดือนมกราคม ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติแสดงให้เห็นว่ามากกว่า 1.8% ที่เห็นในเดือนธันวาคมแต่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.2%

แต่เมื่อเทียบเป็นรายเดือน อัตราเงินเฟ้อ CPI เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้เป็น 0.8% เพิ่มขึ้นอย่างมากจากการอ่านค่า 0% ในเดือนธันวาคม

แม้ว่าการอ่านจะสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของการใช้จ่ายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการต่อต้านโควิด แต่ยังแสดงให้เห็นว่าประชาชนยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายของตัวเองเนื่องจากยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่เพิ่มขึ้นและสภาวะเศรษฐกิจที่แย่ลง

นอกจากนี้ การใช้จ่ายยังได้รับแรงหนุนจากวันหยุดเทศกาลตรุษจีนที่ยาวนานถึงหนึ่งสัปดาห์ แม้ว่าจะเล็กน้อยก็ตาม แต่ข้อมูลของวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนเผชิญกับหนทางอีกยาวไกลในการก้าวไปสู่ระดับการเติบโตก่อนเกิดโรคระบาด ซึ่งบั่นทอนความคาดหวังของตลาดสำหรับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจรายนี้

ดัชนีผู้ผลิต (PPI) ของจีน (PPI) หดตัวที่ 0.8% ต่อปีในเดือนม.ค. ซึ่งแย่กว่าการอ่านค่าติดลบ 0.7% ในเดือนธันวาคมและต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 0.5%

การอ่านค่าร่วมกับข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจที่อยู่ที่ระดับปานกลางในเดือนมกราคม แสดงให้เห็นว่าบางแง่มุมของเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกยังคงดิ้นรนกับการติดเชื้อโควิด19 ที่เพิ่มขึ้นและสภาวะเศรษฐกิจโลกที่เลวร้ายลง

ในขณะที่ธุรกิจในท้องถิ่นประสบปัญหาในการรับมือกับผู้ติดเชื้อโควิด19 ที่สูง พวกเขายังเผชิญกับความต้องการสินค้าในต่างประเทศที่ลดลง ท่ามกลางกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก การอ่านค่าเงินเฟ้อที่อ่อนแอยังเป็นไปตาม แบบสำรวจเอกชน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตยังคงหดตัวจนถึงเดือนมกราคม

แนวโน้มเงินเฟ้อที่อ่อนตัวอาจทำให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลต้องพยุงการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ปักกิ่งย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในปีนี้ด้วยการส่งเสริมการบริโภคและอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

แต่นั่นจะส่งผลลบสำหรับค่าเงินหยวนจีน ซึ่งกำลังดิ้นรนภายใต้ช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างอัตราดอกเบี้ยในประเทศและต่างประเทศ สกุลเงินร่วงลง 0.2% หลังจากการอ่านค่าในวันศุกร์

ติดตามข่าวสารต่างๆเพิ่มเติมได้ที่นี่ >>> CardX จับมือ บสย. เสริมแกร่งการเงิน SMEs รายย่อย เปิดทางเข้าถึงแหล่งทุนง่ายขึ้น

CardX จับมือ บสย. เสริมแกร่งการเงิน SMEs รายย่อย เปิดทางเข้าถึงแหล่งทุนง่ายขึ้นบนแพลตฟอร์มดิจิทัล ไม่ต้องมีสินทรัพย์ค้ำประกัน

CardX ผนึกกำลัง บสย. ประกาศความร่วมมือเสริมศักยภาพทางการเงินผู้ประกอบการ SMEs รายย่อย เปิดทางเข้าถึงแหล่งทุนให้ต่อยอดธุรกิจได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องมีสินทรัพย์ค้ำประกัน เดินหน้าระดมไอเดียพัฒนา Product Program และระบบการส่งคำขอค้ำประกันสินเชื่อผ่าน Digital Platform คาดเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินเชื่อและค้ำประกันสินเชื่อภายในไตรมาส 3 ปี 2566 ตั้งเป้าช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย 10,000 ราย วงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท พร้อมช่วยสนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง

นายสารัชต์ รัตนาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CardX กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือระหว่าง บสย. และ CardX ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ในการต่อยอดธุรกิจได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องมีสินทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งนี้ CardX จะเป็นผู้พิจารณาการให้สินเชื่อ และ บสย. เป็นผู้ค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs โดยเน้นกลุ่ม Micro SMEs หรือ ผู้ประกอบการรายย่อย ที่เป็นกิจการในรูปแบบธุรกิจส่วนบุคคลเป็นหลัก เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่อง และเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

โดยจากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ประจำปี พ.ศ. 2565 พบว่า จำนวน SME ทั่วประเทศ 3,198,484 ราย เป็น วิสาหกิจขนาดย่อม (Small) 3,155,378 ราย และ วิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) 43,106 ราย โดยเฉพาะในส่วนของวิสากิจขนาดย่อมได้รวมกลุ่มวิสาหกิจขนาดย่อย หรือ Micro เข้าไว้ด้วย ซึ่งตามนิยามใหม่ Micro คือ กลุ่มที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1.8 ล้านบาท การจ้างงานไม่เกิน 5 คน ซึ่งมีจำนวนถึง 2,742,416 ราย นับเป็นวิสาหกิจส่วนใหญ่ของประเทศ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 85.35 ของจำนวนผู้ประกอบการรวมทั้งประเทศ ส่วนใหญ่เป็นกิจการ ในรูปแบบธุรกิจส่วนบุคคล 2,268,585 ราย กิจการในรูปแบบนิติบุคคล 849,512 ราย และ วิสาหกิจชุมชน 94,964 ราย

ด้านนายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวเสริมว่า ภายใต้การลงนามข้อตกลงในครั้งนี้ บสย. และ CardX จะร่วมกันหารือและพัฒนา Product Program เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs รายย่อย รวมทั้งการพัฒนาระบบการส่งคำขอค้ำประกันสินเชื่อผ่าน Digital Platform คาดว่าจะเริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินเชื่อและค้ำประกันสินเชื่อภายในไตรมาส 3/2566 ตั้งเป้าช่วยผู้ประกอบการรายย่อย 10,000 ราย วงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท”CardX เชื่อมั่นว่า ก้าวต่อไปของความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยสร้างประสบการณ์ทางการเงินใหม่ๆ ที่ดีและสะดวกสบายมาก ยิ่งขึ้นให้กับผู้ประกอบการ SMEs โดยใช้ทั้งจุดแข็งของ CardX ในเรื่องของการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) เข้ามาพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการกับผู้ประกอบการรายย่อย ทำความเข้าใจ ทุกความต้องการทางการเงินตามความต้องการของแต่ละประเภทธุรกิจ ช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อย สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้เร็วขึ้นและสะดวกมากยิ่งขึ้น ผสานกับประสบการณ์ในการดูแล SMEs ที่ทาง บสย. เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้ความเข้าใจในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดย่อม จึงมั่นใจได้ว่าการร่วมมือกันระหว่าง CardX และ บสย. จะมีส่วนช่วยยกระดับแนวทาง ในการขับเคลื่อน รวมถึงช่วยเหลือ SMEs กลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ยังสอดรับกับนโยบายของ CardX ที่ต้องการให้ลูกค้า ทั้งลูกค้าบุคคลและผู้ประกอบการรายย่อย สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรมมากขึ้น เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตไปอีกขั้น พร้อมเป็นฟันเฟืองสำคัญสำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน” นายสารัชต์กล่าว